หลักการและเหตุผล

ภาวะผู้นำมีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจภายในองค์กรหรือทีมทำงาน ผู้นำที่มีความสามารถในการตัดสินใจได้อย่างเหมาะสมจะส่งผลต่อประสิทธิภาพและความสำเร็จของทีมหรือองค์กรในทุกมิติ ทั้งนี้ผู้นำจะสามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง ต้องเริ่มจากการมีวิธีคิดที่ถูกต้อง 

ในอีกมุมหนึ่ง การแก้ไขปัญหาและการตัดสินใจมีความเกี่ยวข้องกัน กล่าวคือ การตัดสินใจส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความต้องการแก้ไขปัญหา เป็นการเลือกทางเลือกที่ดีที่สุด ท่ามกลางทางเลือกต่าง ๆ ที่มีอยู่ เพราะในกระบวนการแก้ไขปัญหามักมีทางเลือกให้ต้องตัดสินใจ เฉพาะเจาะจง ณ ช่วงเวลานั้น สถานการณ์นั้น ปัญหานั้น โดยทั่วไปมักมีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจเพื่อแก้ไขปัญหา เช่น สถานการณ์ ความจำกัด ค่านิยม ผลประโยชน์ บทบาทและหน้าที่ และปัจจัยภายในที่มีผลต่อการตัดสินใจแต่อาจไม่รู้ตัว คือ จุดอ่อนมนุษย์ 

ด้วยเหตุนี้ การที่ผู้นำจะชี้ทิศว่า องค์กรจะไปทิศทางไหน จะใช้นโยบายอะไร ทั้งเรื่องเล็กและเรื่องใหญ่อย่างไร จำเป็นต้องคิดพิจารณาให้ครบทั้งระบบ

การคิดครบทั้งระบบเป็น การคิดอย่างมีระบบระเบียบ เชื่อมโยงเป็นเหตุเป็นผล ต่อเนื่องเป็นขั้นเป็นตอน ครบถ้วนทั้งกระบวนการ จนกระทั่งสามารถคิดทะลุ (breakthrough) หรือได้คำตอบหรือผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

เนื้อหาอบรม

ส่วนที่ 1 ผู้นำกับการตัดสินใจ 

1. ผู้นำควรมีไตรภาวะในการนำองค์กร  ภาวะการนำ ภาวะบริหาร ภาวะคุณธรรม

2. การแก้ปัญหาและการตัดสินใจ มีความเกี่ยวข้องกัน 

3. ผู้นำตัดสินใจ โดยเอาชนะ 7 จุดอ่อนของมนุษย์ได้

4. การตัดสินใจ กำกับด้วยหลักปรับญาอารยะ

ส่วนที่ 2 การแก้ปัญหาและการตัดสินใจอย่างเป็นระบบ

1. คิดครบระบบ (Systems Thinking)

แนวคิดปฏิรูป 3 ประสาน คน ระบบ บริบท

2. คิดเชิงระบบ (Systemic Thinking)

2.1  ยุทธศาสตร์การบริหารประสิทธิสภาพ 8E โมเดล

• E1: Efficiency (ประสิทธิภาพ) 

• E2: Excellence (ประสิทธิการ) 

• E3: Effectiveness (ประสิทธิผล) 

• E4: Esteemed Valuableness (ประสิทธิคุณ)

• E5: Esthetic – Worthiness (ประสิทธิสาร) 

• E6: Exponentiality (ประสิทธิคูณ) 

• E7: Externality (ประสิทธิเขต) 

• E8: Eschatonicity (ประสิทธิกาล) 

2.2 ผู้นำต้องมีทักษะคิดเชิงระบบ

• ชั่งน้ำหนักเก่ง

• คาดการณ์อนาคต

• สร้างฉากทัศน์

• มองเห็นผลปลายทางตั้งแต่เริ่มต้น

• ยิงปืนนัดเดียวได้นกทั้งฝูง คิดแบบผลชัย

3. คิดอย่างเป็นระบบ (Systematic Thinking)

1.   การคิดเชิงปรัชญา (Philosophical Thinking)

1) การใช้เหตุผล (Reasoning) 

2) การให้นิยาม (Defining Characteristic)

3) การจัดหมวดหมู่ (Categorizing)

4) การเชื่อมโยงนามธรรม กับ รูปธรรม (Abstratization vs. Concretization)

5) การแยกแยะ ส่วนเฉพาะ กับ ส่วนทั่วไป (Particularization vs. Generalization)

6) การแยกแยะ เรื่องเจาะจง กับ เรื่องสากล (Specificization vs. Universalisation)

7) การแยกแยะ สัมพัทธ์ กับ สัมบูรณ์ (Relativization vs. Absolutization)

8) การแยกแยะ รูปแบบ กับ สาระ (Form vs. Substance)

9) การรู้ขอบเขตของ กาละ และ เทศะ (Time – Space Boundary)

10) การแยกแยะเงื่อนไขจำเป็น กับ เงื่อนไขพอเพียง (Necessary Condition vs. Sufficient 

2.   การคิดเชิงสารัตถะ (Essence Thinking)

1) เข้ารหัส (Encoding) และ ถอดรหัส (Decoding)

2) ยึดกรอบวัฒนธรรม (Culturalization) กับ ถอดกรอบวัฒนธรรม (Deculturalization)

3) สิ่งที่อยู่ภายใน (Endogenization) กับ สิ่งที่แสดงออกภายนอก (Exogenization)

หลักการและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง

#ทักษะผู้นำ #การตัดสินใจ #การแก้ปัญหา #ภาวะผู้นำ #การคิดเชิงระบบ #การคิดอย่างเป็นระบบ #การคิดเชิงปรัชญา #การคิดเชิงสารัตถะ #การบริหารองค์กร #การพัฒนาผู้นำ #การสร้างองค์กร #การพัฒนาทักษะผู้นำ #การบริหารทีม #การวางแผนยุทธศาสตร์ #การคิดเชิงอนาคต #การคิดเชิงประสิทธิภาพ #การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ #การคิดเชิงวิพากษ์ #การประสานงาน #การพัฒนาความคิด #การบริหารงาน #ศูนย์ฝึกอบรมไอเอฟดี #สถาบันอนาคตศึกษา #อนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา #ที่ปรึกษาไอเอฟดี #IFD #การพัฒนาอนาคต #การพัฒนาศักยภาพ #การเรียนรู้และการพัฒนา #การฝึกอบรม #การพัฒนาทักษะ #ที่ปรึกษาด้านอนาคต #โครงการพัฒนา #การศึกษาเพื่ออนาคต #การคิดเชิงระบบ #พัฒนาศักยภาพบุคลากร #ฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ