หลักการและเหตุผล

ในยุคที่การบริหารองค์กรต้องเผชิญกับความท้าทายที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและไม่แน่นอน การคาดการณ์ผลการดำเนินงานขององค์กรจึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการวางแผนและตัดสินใจอย่างมีประสิทธิภาพ การพัฒนากระบวนการคาดการณ์ที่มีความแม่นยำจะช่วยให้การตัดสินใจในระดับกลยุทธ์เป็นไปอย่างรอบคอบและเหมาะสมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในอนาคต

หลักสูตรการพัฒนากระบวนการคาดการณ์ผลการดำเนินการตัวชี้วัดที่สำคัญขององค์กร นี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการใช้เครื่องมือคาดการณ์ที่หลากหลายและเหมาะสม เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถคาดการณ์ผลลัพธ์ของตัวชี้วัดที่สำคัญได้อย่างแม่นยำและเชื่อถือได้ โดยใช้เครื่องมือที่เป็นที่รู้จัก เช่น Microsoft Excel ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ง่ายต่อการเข้าถึงและใช้งาน

การคาดการณ์ที่ดีจะช่วยให้องค์กรสามารถติดตามผลการดำเนินงานในระยะยาวและระยะสั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังช่วยให้สามารถปรับกลยุทธ์และการดำเนินงานได้ตามสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป หลักสูตรนี้จึงมุ่งเน้นการพัฒนาเครื่องมือและวิธีการในการคาดการณ์ที่มีความเหมาะสมกับตัวชี้วัดที่สำคัญขององค์กร โดยเน้นการเลือกเครื่องมือคาดการณ์ที่เหมาะสมตามลักษณะข้อมูลและประเภทของตัวแปรที่ใช้

ด้วยเนื้อหาที่ครอบคลุมตั้งแต่การสร้างแบบจำลองตัวชี้วัด การวิเคราะห์อนุกรมเวลา และการใช้เทคนิคการคาดการณ์ขั้นพื้นฐานจนถึงการทดสอบความแม่นยำของการคาดการณ์ หลักสูตรนี้จะช่วยให้ผู้เข้าอบรมสามารถดำเนินกระบวนการคาดการณ์ในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังสามารถประยุกต์ใช้เครื่องมือคอมพิวเตอร์ในการคาดการณ์ในรูปแบบต่างๆ เช่น การวิเคราะห์การถดถอย (Regression), การจำลองสถานการณ์ (Simulation), และการตรวจสอบความถูกต้องของการพยากรณ์

การอบรมนี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถขององค์กรในการเตรียมตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต และปรับตัวได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพในการดำเนินงาน

วัตถุประสงค์การอบรม

1. เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับประเภทและลักษณะของตัวชี้วัดที่สำคัญขององค์กร

ผู้เข้าอบรมจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับตัวชี้วัดที่ใช้ในการประเมินผลการดำเนินงานขององค์กร รวมทั้งลักษณะของตัวชี้วัดที่ดีที่สามารถช่วยให้การตัดสินใจขององค์กรมีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพ

2. เพื่อพัฒนาทักษะในการจัดทำและการเก็บข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการสร้างตัวชี้วัด

ผู้เข้าอบรมจะสามารถกำหนดตัวแปรที่เกี่ยวข้องและเลือกวิธีการเก็บข้อมูลที่เหมาะสมในการสร้างตัวชี้วัดที่สามารถวัดผลลัพธ์ได้อย่างถูกต้องและน่าเชื่อถือ

3. เพื่อสร้างความเข้าใจในหลักการคาดการณ์ที่ใช้ในการวิเคราะห์ตัวชี้วัด

ผู้เข้าอบรมจะได้เรียนรู้หลักการที่สำคัญในการคาดการณ์ผลการดำเนินการ เช่น หลักเหตุและผล (Causality), หลักต่อเนื่อง (Continuity), หลักอุปมาอุปมัย (Analogy), และหลักจินตนาการ (Imagination) เพื่อช่วยในการคาดการณ์ผลลัพธ์ที่เป็นไปได้ในอนาคต

4. เพื่อฝึกทักษะในการใช้เครื่องมือคาดการณ์ที่เหมาะสม

ผู้เข้าอบรมจะได้เรียนรู้วิธีการใช้เครื่องมือคาดการณ์ต่างๆ เช่น การวิเคราะห์อนุกรมเวลา (Time Series), การวิเคราะห์การถดถอย (Regression), การจำลองสถานการณ์ (Simulation) และเครื่องมือคาดการณ์อื่นๆ ที่เหมาะสมกับข้อมูลและตัวชี้วัดที่มีอยู่

5. เพื่อพัฒนาทักษะในการวิเคราะห์และแปลผลการคาดการณ์

ผู้เข้าอบรมจะสามารถวิเคราะห์ผลการคาดการณ์ที่ได้จากเครื่องมือคาดการณ์ต่างๆ และทำการแปลผลเพื่อเสนอแนวทางในการพัฒนาผลการดำเนินงานขององค์กร โดยใช้ข้อเสนอแนะจากผลการคาดการณ์

6. เพื่อพัฒนาความสามารถในการเลือกเครื่องมือคาดการณ์ที่เหมาะสมกับลักษณะและความต้องการขององค์กร

ผู้เข้าอบรมจะสามารถประเมินความเหมาะสมของเครื่องมือคาดการณ์ที่ต่างกันตามลักษณะข้อมูล ความละเอียด และช่วงเวลาการคาดการณ์ รวมถึงความจำเป็นในการประเมินความแม่นยำของการพยากรณ์

เนื้อหาอบรม

1. ประเภทของตัวชี้วัด และลักษณะของตัวชี้วัดที่ดี

• • • ตัวชี้วัดแบบโดยตรง แบบดัชนี แบบดัชนีผสม

    • ตัวชี้วัดด้านปัจจัยนำเข้า กระบวนการ ผลผลิต ผลลัพธ์

    • ลักษณะของตัวชี้วัดที่ดี : เชิงยุทธศาสตร์ แม่นตรง เชื่อถือได้ โกงไม่ได้ เพียงพอ ไม่ฟุ่มเฟือย

    • ผลกระทบของการกำหนดตัวชี้วัดที่ดี/ไม่ดี

2. ประเภทของตัวแปร และวิธีการจัดเก็บข้อมูลเพื่อจัดทำตัวชี้วัด

• ตัวแปรเชิงปริมาณ ตัวแปรเชิงคุณภาพ

• Ratio scale, interval scale, ordinal scale, nominal scale

• ตัวแปรหุ่น (dummy variable)

• ขั้นตอนการจัดทำตัวชี้วัด : การกำหนดโครงสร้าง การสร้างแบบจำลองการวัด การเก็บข้อมูล การบรรณาธิกรข้อมูลและเติมข้อมูลที่ขาด (data imputation) การกำหนดตัวเปรียบเทียบ (benchmarking) การทำให้เป็นค่าปกติ (normalization) การรวมกลุ่ม (aggregation) การแปล‍ผล

• วิธีการเก็บข้อมูล : บันทึกการดำเนินงาน (transaction) การสอบถาม การสังเกต การประชุม วิธีเดลฟาย การจำลอง/บทบาทสมมติ การใช้ตัวแปรตัวแทน (proxy)

3. หลักพื้นฐานของการคาดการณ์ตัวชี้วัด

• • • หลักต่อเนื่อง (Continuity)

    • หลักเหตุและผล (Causality)

    • หลักอุปมาอุปมัย (Analogy)

    • หลักดุลยภาพ (Equilibrium)

    • หลักจินตนาการ (Imagination)

4. ประเภทของเครื่องมือคาดการณ์ และความเหมาะสมในการใช้งาน

• แนวทาง (approach) การคาดการณ์ : Top-down, Bottom-up, 

• การจัดกลุ่มเครื่องมือ : อนุกรมเวลา แบบจำลองเศรษฐมิติ การจำลองสถานการณ์ ทฤษฎีเกม

• ตัวอย่างเครื่องมือ : Trend extrapolation, Smoothing techniques, ARIMA model, Regression model, Qualitative choice model, System dynamics, Structural equation modelling, Monte Carlo simulation, Agent-based modelling

5. การวิเคราะห์อนุกรมเวลา (Time Series) เบื้องต้น (แสดงวิธีทำบนเครื่องคอมพิวเตอร์)

• องค์ประกอบของข้อมูลอนุกรมเวลา : แนวโน้ม (secular trend) ฤดูกาล (seasonal component) วัฏจักร (cyclical component) ความรบกวนสุ่ม (random disturbance)

• Trend extrapolation : Linear trend, Exponential trend, Logistic trend ฯลฯ

• Smoothing techniques : Moving average, Exponential smoothing

• ARIMA/ARIMAX model

6. การวิเคราะห์การถดถอย (Regression) เบื้องต้น (แสดงวิธีทำบนเครื่องคอมพิวเตอร์)

• Simple/Multiple regression

• Qualitative choice model : แบบจำลอง Logit

• การตรวจสอบนัยสำคัญของตัวแปรอธิบาย และความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร

7. การจำลองสถานการณ์ (Simulation) เบื้องต้น (แสดงตัวอย่างบนเครื่องคอมพิวเตอร์)

• Monte Carlo simulation: การจำลองผลกำไรของบริษัท ระบบแถวคอย (queuing system)

• Large-scale economy-wide model : แบบจำลอง CGE (Computable General Equilibrium), แบบจำลอง macro econometric

• Agent-based model: การจราจร Hotelling’s Law, Schelling’s Schelling's model of segregation

8. การทดสอบความแม่นยำของการคาดการณ์ และการเลือกเครื่องมือคาดการณ์ที่เหมาะสม

• การเลือกเครื่องมือคาดการณ์ที่เหมาะสม

  • • ความละเอียด ความถูกต้อง (accuracy)

    • ค่าใช้จ่าย (cost)

    • ความยาก ความซับซ้อนของวิธีการ

    • ลักษณะรูปแบบของข้อมูล และช่วงเวลาที่มีของข้อมูล

    • ขอบเขตเวลาการคาดการณ์

    • ความจำกัดของเวลา

• การตรวจสอบความละเอียดและความถูกต้อง

9. การวิเคราะห์และแปลผลการคาดการณ์ และการจัดทำข้อเสนอแนะการพัฒนาองค์กร

• a. การกำหนดตัวเปรียบเทียบ และการประเมินคุณค่า 

• b. การวิเคราะห์สาเหตุ : เหตุใดจึงสูง/ต่ำ เพิ่ม/ลด

• c. ความอ่อนไหว (sensitivity) ของปัจจัยที่ส่งผลกระทบ

• d. การกำหนดทางเลือกนโยบาย และการประเมินทางเลือกนโยบาย

• e. การวิเคราะห์ตำแหน่งยุทธศาสตร์ของทางเลือกนโยบาย

• 
  

รูปแบบการอบรม

1. การบรรยายโดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ

2. การอภิปรายกลุ่มเพื่อแลกเปลี่ยนมุมมอง

3. กิจกรรมการวิเคราะห์สถานการณ์ในอนาคต

4. การสร้างแผนการศึกษาภาพอนาคตตามกรณีศึกษาขององค์กร

วิทยากร

• อ.ทวีชัย เจริญเศรษฐศิลป์   และ ทีมนักวิจัยจากสถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา (IFD)

#อบรมรัฐวิสาหกิจ #หลักสูตรSEM #พัฒนาทักษะข้อมูล #วิเคราะห์เชิงลึก #ConfirmatoryFactorAnalysis #อบรมเชิงปฏิบัติ #พัฒนาองค์กรภาครัฐ #การวิเคราะห์สมการโครงสร้าง #IFDtraining